TH l EN
facebook instagram youtube line
บริการของเรา
การเตรียมตัวก่อน-หลัง ผ่าตัด
graphic

โปรโมชั่น

อีกหนึ่งความไว้วางใจ

เสริมจมูก
Line ID
line
Facebook
facebook

เสริมจมูก (การฉีด)



การเสริมจมูก (การฉีด)

การปฏิวัติของการใช้ยาฉีดเป็นอีกทางเลือกเหนึ่งในการศัลยกรรมความงามโดยหลีกเลี่ยงจากการผ่าตัด ยาฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นทางเลือกนั้น ซึ่งจะถูกใช้เติมเต็มรอยแผล แก้ไขจุดบกพร่อง หรือทำให้ปลายจมูกเชิดให้ดูอ่อนลง ฟิลเลอร์ช่วยในการกำหนดรูปร่าง และปรับปรุงรูปทรงของจมูก


ชนิดของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์มีหลายชนิด
• คอลลาเจน เช่น Zyplast และ Cosmoderm
• กรด hyaluronic เช่น Restylane และ Hylaform
• ผลึกแร่แคลเซียม ไฮดร็อกซิล เช่น Radiesse และ polyacrylamide
นอกเหนือจากนี้แล้ว ทางการแพทย์ได้ทำการค้นคว้าและวิจัย ฟิลเลอร์ใหม่ๆขึ้นมาตลอด

แบบอย่างของฟิลเลอร์ควรจะเป็นการง่ายในการควบคุม ให้ผลลัพธ์ทางศาสตร์แห่งความงามที่ก้าวหน้า สามารถอยู่ใต้ผิวหนังเป็นเวลายาวนาน และมีความปลอดภัยเป็นอย่างสูง ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ จะต้องมีการทา หรือฉีดยาชาลงไปที่ผิวหนัง เพื่อทำให้ผิวหนังรู้สึกชา จากนั้นใช้เข็มฉีดยาที่มีขนาดเล็ก ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณริ้วรอย หรือแผลเป็นที่ต้องการรักษา อาจจะมีความรู้สึกร้อนๆ หรือเหมือนโดนสัตว์ เช่น ผึ้งต่อย แต่จะหายไปในไม่นาน
ผลลัพธ์ที่ได้สามารถอยู่ได้ 3 เดือน ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ คอลลาเจนจะมีอายุสั้นสุด ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน Restylane อยู่ได้ 6 เดือน – 1 ปี Radiesse อยู่ได้มากกว่า 3 ปี Aquamid และ Hydrogel สามารถอยู่ได้มากกว่า 5 ปี

ผลข้างเคียงไม่ค่อยจะปรากฏให้เห็น แต่อาจจะมีได้ เช่น อาการแพ้ (Hypersensitivity) การเกิดแผลเปื่อย การติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย รอยช้ำ หรือการเกิดก้อนแข็ง จากการอักเสบเรื้อรัง
AQUAMID และ Hydrogel เป็น สาร polyacrylamide ซึ่งมีกำลังในการแลกเปลี่ยนของโมเลกุลน้ำระหว่างเจลกับเนื้อเยื่อข้างเคียง AQUAMID เป็นสารที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ไม่มีกรดชีวภาพ อยู่ได้นาน เห็นผลทันใจ และง่ายสำหรับฉีด

การศึกษาวิจัยพบว่า AQUAMID และ Hydrogel เป็นสารที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ที่ไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงมาก

Polyacrylamide เป็นฟิลเลอร์แบบถาวร และได้รับการทดสอบมากกกว่า 10 ปี ในคนไข้มากกว่า 100,000 คน การทดลองในยุโรปได้รับประกันว่า มีผลข้างเคียงน้อยมาก และไม่ก่อให้เกิดความอันตราย นอกจากอาการบวมเล็กน้อยซึ่งจะค่อยๆ จางไปเรื่อยๆ หลังจาก 1 – 2 วัน

Polyacrylamide จะถูกฉีดลงใต้ผิวด้วยเข็มคม ศัลยแพทย์และคนไข้สามารถเลือกผลลัพธ์ที่ควรจะออกมาได้เองหน้ากระจก การฉีดจะทำในห้องศัลแพทย์ โดยไม่ต้องมีการพักรักษาตัว หลังจากฉีดแล้วสามารถกลับบ้าน หรือกลับไปทำงานตามปกติได้ทันที

Polyacrylamide เป็นเจลที่ไม่สามารถซึมได้ และอยู่ได้เป็นเวลานาน ใช้สำหรับการแก้ไขใบหน้า และสัดส่วนของร่างกาย เมื่อฉีด Polyacrylamide แล้วจะไม่มีการแข็งเกิดขึ้นทันที และไม่ไหลจากจุดฉีด ผลจากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ได้สรุปว่าเจลจะอยู่กับที่ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 10 ปี และจะอยู่อย่างนั้น โดยไม่เปลี่ยนแปลง และไม่ต้องฉีดซ้ำถ้าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาได้เป็นไปตามความต้องการของศัลยแพทย์และตัวคนไข้เอง ส่วนการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณก็ยังคงเป็นไปตามอายุ ความต้องการในการฉีดเพิ่มยังคงเป็นไปได้ ถ้าเกิดเห็นว่าสมควร


ผู้ที่มีความเหมาะสมในการฉีดเสริมจมูก
• ผู้ที่มีข้อบกพร่องของจมูก สันจมูกน้อย หรือการเพิ่มปลายจมูกให้โด่งขึ้น
• ผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ และแข็งแรง
• ผู้ที่มีสุขภาพจิตที่มั่นคง
• ผู้ที่ต้องการพัฒนารูปลักษณ์
• ผู้ที่เห็นความเป็นจริงของความคาดหมาย
• ผู้ที่รับรู้ทางเลือกต่างๆ


ชนิดของยาชาที่ใช้
ระดับความเจ็บปวดระหว่างการทำศัลยกรรมจะแตกต่างกันตามรายบุคคล อย่างไรก้อตาม อาการเจ็บจากการฉีดมีไม่มาก โดยทั่วไปแล้วศัลยแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น


การฉีด
ศัลยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ลงในใต้ผิวหนังด้วยเข็มคม จำนวนของฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปขึ้นอยู่กับระดับของจุดบกพร่อง ที่ต้องการการแก้ไข


หลังจากการฉีด
หลังจากการฉีดทันที คุณจะรู้สึกถึงความตึงๆ ปวดแปรบๆ หรือเนื้อเต้นตุบๆ ตรงบริเวณฉีด บางครั้งจะเกิดรอยช้ำ หรือบวม แต่ไม่มาก อาการแดงตรงบริเวณที่ฉีดจะหายไปในระยะเวลา 24ชม. อย่างไรก็ตาม ในบางคน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวค่อนข้างขาว อาการแดงอาจมีต่อไปถึง 1 อาทิตย์ หรือมากกว่า อาจจะเกิดสะเก็ดตรงบริเวณรอยเข็ม แต่ผิวจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว