คนเราเกิดมาไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปซะทุกส่วน ต้องมีจุดตำหนิหรือข้อบกพร่องบ้าง บางคนก็ปล่อยผ่านมันไป แต่สำหรับบางคนนั้นก็อยากที่จะแก้ไขมัน โดยการศัลยกรรมตกแต่งเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น หน้าเรียว ดั้งโด่ง คางแหลมกลายเป็นเทรนด์ยอดฮิตที่หลาย ๆ คนนิยมทำตามเป็นแบบพิมพ์เดียวกัน หากทำออกมาแล้วเป็นที่พึงพอใจก็ดีไป แต่ถ้าหากทำออกมาแล้วไม่เป็นดั่งที่หวังหรือแย่กว่าเดิม สาว ๆ ก็ต้องมานั่งเสียใจ เสียเงินและเสียเวลาในภายหลัง
ยิ่งในปัจจุบันนี้เราเห็นสถาบันเสริมความงามเปิดใหม่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เกือบจะเยอะพอ ๆ กับเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งนอกจากจะหารีวิวสวย ๆ ของสถาบันนั้นแล้ว สาว ๆ ควรหาข้อมูลอื่น ๆ ในเชิงการแพทย์ด้วย เช่น ใบรับรองต่าง ๆ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ได้มาตรฐานหรือไม่ และผู้ที่ทำศัลยกรรมให้เราควรเป็นแพทย์จริง ๆ ไม่ใช่หมอกระเป๋า เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนการันตีความน่าเชื่อถือ ทำให้สาว ๆ มั่นใจว่าหลังทำศัลยกรรมแล้วจะไม่เกิดอาการข้างเคียงหรือศัลยกรรมทำพิษ แบบที่กระปุกดอทคอมได้รวบรวมกันมาฝากในวันนี้
1. ฉีดโบท็อกซ์ ไม่ได้ทำให้หน้าเรียวตลอดไป
การฉีดโบท็อกซ์ในปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทำให้ใบหน้าสาว ๆ ดูเรียว วีเชป แถมมีราคาไม่สูงมากนัก แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าสารโบท็อกซ์นั้นไม่ได้ทำให้หน้าเรียวตลอดไป มันสลายตัวเองใน 6 เดือนถึง 1 ปี อีกทั้งในบางรายยังเกิดผลข้างเคียงด้วย เช่น รู้สึกแข็งไปทั้งใบหน้า ปวดกราม เคี้ยวอาหารได้ลำบาก ใบหน้าไม่สมดุล
2. ระวังฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง
อีกหนึ่งเทคนิคที่สาว ๆ นิยมไม่แพ้การฉีดโบท็อกซ์ คือการฉีดสารเติมเต็มผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้ม ทำให้ผิวหน้ากลับมาเต่งตึง โดยจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ก่อนสารจะสลายไป ซึ่งข้อควรระวังของการฉีดฟิลเลอร์คือเรื่องของสารที่ไม่ได้มาตรฐาน ตำแหน่งที่ฉีดเข้าไป หากผิดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
3. เมโสแฟตเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา
สำหรับสาว ๆ รูปร่างท้วม คงจะเคยได้ยินการฉีดสลายไขมันส่วนเกิน หรือที่เรียกว่าเมโสแฟตกันมาบ้าง ซึ่งนิยมฉีดกันบริเวณแก้ม ต้นแขน ต้นขา เพื่อให้รูปร่างดูกระชับและผอมลง แต่สาว ๆ ขา บางคนไปฉีดแล้วก็ไม่ได้ผล ผิวหนังเป็นลอนคลื่น หรือบางคนก็ติดเชื้อ วิธีที่ดีที่สุดในการสลายไขมันคือการออกกำลังกายนะคะ นอกจากจะไม่เสียเงินแล้วยังได้สุขภาพดีอีกด้วยค่ะ
4. เสริมดั้ง ระวังซิลิโคนทะลุ
ต่อให้ดั้งแหมบ จมูกบานแค่ไหนก็แก้ไขได้ด้วยการทำจมูก แถมยังเลือกทรงได้อีกว่าจะเอาแบบไหน ซึ่งทรงที่นิยมมากที่สุดคือทรงหยดน้ำ แบบที่ปลายจมูกจะพุ่งตรงลงมา ทำให้ใบหน้าดูเด่นและเรียว แต่สำหรับสาว ๆ ที่มีเนื้อปลายจมูกบางอาจจะต้องระวังซิลิโคนทะลุ สังเกตอาการง่าย ๆ คือปลายจมูกจะเริ่มบวมแดง ถ้าพบอาการนี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดค่ะ
5. ตัดปีกจมูก จนรูจมูกแคบ แทบหายใจไม่ออก
สิ่งที่มาคู่กับการเสริมดั้งคือการตัดปีกจมูก สำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกบาน จมูกโตทรงชมพู่ ซึ่งการตัดจะช่วยให้ปลายจมูกเรียวเล็ก ซึ่งต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญลงมือตัดให้ ไม่อย่างนั้นหลังทำเสร็จรูจมูกของคุณอาจจะออกมาไม่เท่ากัน หรือมีแผลเป็นข้าง ๆ จมูก นั่นก็คงดูไม่สวยสักเท่าไร
6. ทำปากกระจับ แต่กลับเป็นปากเบี้ยว
เทรนด์จือปากแบบอั้ม พัชราภา มีมาแต่ไหนแต่ไร เรียกได้ว่าเป็นรูปปากในฝันจนสาว ๆ แห่กันไปทำตาม จากคนปากหนากลายเป็นปากบางดูเซ็กซี่เหมือนเผยอไว้ตลอดเวลา แต่ในเวลายิ้มกลับเห็นเหงือกจนดูน่าเกลียด หรือบางคนก็ออกมาปากเบี้ยว ข้างหนึ่งยกสูง อีกข้างหนึ่งบวม ดังนั้นก่อนสาว ๆ คิดจะไปทำปากกระจับควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะคะ ปากของเราถูกเฉือนเนื้อออกไปแล้วเรียกกลับมาไม่ได้นะ
7. ตาโตดอลลี่อาย กลายเป็นตาง่วงนอน
สำหรับสาว ๆ ที่อยากให้ดวงตาดูโต แบ๊ว โดยการไปทำดอลลี่อาย หลังจากทำเสร็จคาดหวังไว้ว่าดวงตาควรดูกลมโตสดใส แต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลาซะอย่างนั้น นั่นอาจเป็นเพราะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไม่มีแรงยกเปลือกตา สาว ๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคุยให้ละเอียดนะคะว่ารูปตาแบบนี้หลังจากทำเสร็จออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร
8. เสริมคาง ยาวเป็นลูกมะม่วง
นอกจากฉีดโบท็อกซ์ให้แก้มลด หน้าเรียวแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำให้ใบหน้าสาว ๆ กลายเป็นวีเชปนั่นก็คือการเสริมคางด้วยซิลิโคน ซึ่งต้องอาศัยฝีมือหมอไม่ให้เสริมคางยาวไปเหมือนลูกมะม่วง อีกทั้งต้องระวังไม่ให้คางเบี้ยวและจับตัวแข็งเป็นก้อนไต อาจรู้สึกตึงแน่นปวดเกร็งด้วย ทีนี้จะเอาออกก็ต้องขูดกันแล้วล่ะค่ะ
9. หน้าอกตูม ๆ แต่ดันแข็งโป๊กไม่เป็นธรรมชาติ
สาว ๆ คัพ A สามารถเปลี่ยนมาเป็นคัพ D ได้ด้วยการผ่าตัดเสริมหน้าอก อยากได้เล็กใหญ่ขนาดไหนคุณหมอจัดให้ แต่ใช่ว่าหน้าอกใหญ่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติเสมอไป บางคนจับแล้วแข็ง ไม่นิ่มเป็นธรรมชาติ ซึ่งต้องอาศัยการนวดบ่อย ๆ หลังทำเสร็จนั่นเองค่ะ แต่บางรายอาจหนักยิ่งกว่า เช่น หน้าอกห่าง หัวนมไม่อยู่ตรงกลาง หน้าอก 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากัน เป็นต้น
10. เวเซอร์ ดูดไขมันให้หายไป แต่มีหนังเหี่ยวเข้ามาแทนที่
การดูดไขมันเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในบ้านเรา เรียกสั้น ๆ ว่า "เวเซอร์" (Vaser) สามารถดูดได้ทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เอว สะโพก ต้นขา แขน ซึ่งช่วยให้สัดส่วนดูเล็กลง แต่อย่าลืมว่าพอไขมันในร่างกายเราหายไปแล้ว ผิวหนังที่เคยเต่งตึงอาจเหี่ยวย่นย้อย หรือผิวบุ๋มเป็นจ้ำ ๆ อีกทั้งถ้าหากสาว ๆ ยังคงกินแหลกแบบเดิม ๆ ก็สามารถกลับมาอ้วนได้อีก ดังนั้นวิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวสาว ๆ เองด้วยนะคะ
ทั้งนี้ 10 อาการเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางบุคคลเท่านั้น สาว ๆ ที่ทำออกมาแล้วสวยก็มีให้เห็นเยอะแยะ อีกทั้งแพทย์ในปัจจุบันก็มีหลายท่านที่เก่ง สาว ๆ ที่เพิ่งศัลยกรรมเสร็จหมาด ๆ ก็อย่าเพิ่งไปกังวล รอดูอาการตามที่แพทย์แนะนำ แต่ถ้าหากปล่อยนานแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขกันต่อไปนะคะ