TH l EN
facebook instagram youtube line
บริการของเรา
การเตรียมตัวก่อน-หลัง ผ่าตัด
graphic

โปรโมชั่น

อีกหนึ่งความไว้วางใจ

เสริมจมูก
Line ID
line
Facebook
facebook

เสริมก้น & เสริมสะโพก (การฉีด)



การใช้ยาฉีด Injectable Treatment

ปัจจุบันศัลยแพทย์มีวิธีการมากมายในการทำให้ผิวสวย ราบเรียบ เปล่งประกายต่อผิวที่เสื่อมเสียเนื่องจากการมีอายุ การใช้ยาฉีดเป็นทางเลือกหนึ่งในจำนวนนั้นที่มีตวามนิยมเป็นอย่างสูง
ไขมันเป็นที่นิยมใช้ ไขมันลดหรือกำจัดริ้วรอยได้ ไขมันสกัดมาจากตัวมนุษย์เอง เพราะฉะนั้นจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และไขมันสามารถใช้ในปริมาณที่มากกว่า เมื่อเปรียบเทียวกับสารอื่นๆ ซึ่งหมายความว่า แทนที่จะกำจัดริ้วรอย และตีนกาเพียงแค่นิดเดียว การฉีดไขมัน ให้ส่วนเติมเต็มที่มากว่า ในการทำให้หน้าอ่อนเยาว์ขึ้น รูปหน้าที่ดีขึ้น และผิวที่เรียบเนียน การฉีดไขมันเข้าไปที่เนื้อเยื่อลึกชั้นในของผิวหนังของใบหน้าสามารถจำกัดริ้วรอยได้อย่างหมดจด
ฟิลเลอรืเป็นทางเลือกหนึ่งของการฉีด ฟิลเลอร์เติมเต็มได้มาก ให้ความสดใส อ่อนเยาว์ ความเป็นรูปเป็นร่าง และเรียบเนียนแก่ผิวหน้า นอกเหนือไปจากการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าแล้ว ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ที่หน้าอก และสะโพกด้วย

ชนิดของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์มีหลายชนิด
• คอลลาเจน เช่น Zyplast และ Cosmoderm
• กรด hyaluronic เช่น Restylane และ Hylaform
• ผลึกแร่แคลเซียม ไฮดร็อกซิล เช่น Radiesse และ polyacrylamide

นอกเหนือจากนี้แล้ว ทางการแพทย์ได้ทำการค้นคว้าและวิจัยฟิลเลอร์ใหม่ๆขึ้นมาตลอด
แบบอย่างของฟิลเลอร์ควรจะเป็นการง่ายในการควบคุม ให้ผลลัพธ์ทางศาสตร์แห่งความงามที่ก้าวหน้า สามารถอยู่ใต้ผิวหนังเป็นเวลายาวนาน และมีความปลอดภัยเป็นอย่างสูง ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ จะต้องมีการทา หรือฉีดยาชาลงไปที่ผิวหนัง เพื่อทำให้ผิวหนังรู้สึกชา จากนั้นใช้เข็มฉีดยาที่มีขนาดเล็ก ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณริ้วรอย หรือแผลเป็นที่ต้องการรักษา อาจจะมีความรู้สึกร้อนๆ หรือเหมือนโดนสัตว์ เช่น ผึ้งต่อย แต่จะหายไปในไม่นาน

ผลลัพธ์ที่ได้สามารถอยู่ได้ 3 เดือน ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ คอลลาเจนจะมีอายุสั้นสุด ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน Restylane อยู่ได้ 6 เดือน – 1 ปี Radiesse อยู่ได้มากกว่า 3 ปี Aquamid และ Hydrogel สามารถอยู่ได้มากกว่า 5 ปี

ผลข้างเคียงไม่ค่อยจะปรากฏให้เห็น แต่อาจจะมีได้ เช่น อาการแพ้ (hypersensitivity) การเกิดแผลเปื่อย การติดเชื้อไวรัส และแบกทีเรีย รอยช้ำ หรือการเกิดก้อนแข็ง จากการอักเสบเรื้อรัง

AQUAMID และ Hydrogel เป็น สาร polyacrylamide ซึ่งมีกำลังในการแลกเปลี่ยนของโมเลกุลน้ำระหว่างเจลกับเนื้อเยื่อข้างเคียง AQUAMID เป็นสารที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ไม่มีกรดชีวภาพ อยู่ได้นาน เห็นผลทันใจ และง่ายสำหรับฉีด

การศึกษาวิจัยพบว่า AQUAMID และ Hydrogel เป็นสารที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ที่ไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงมาก

Polyacrylamide เป็นฟิลเลอร์แบบถาวร และได้รับการทดสอบมากกกว่า 10 ปี ในคนไข้มากกว่า 100,000 คน การทดลองในยุโรปได้รับประกันว่า มีผลข้างเคียงน้อยมาก และไม่ก่อให้เกิดความอันตราย นอกจากอาการบวมล็กน้อยซึ่งจะค่อยๆ จางไปเรื่อยๆ หลังจาก 1 – 2 วัน

Polyacrylamide จะถูกฉีดลงใต้ผิวด้วยเข็มคม ศัลยแพทย์และคนไข้สามารถเลือกผลลัพธ์ที่ควรจะออกมาได้เองหน้ากระจก การฉีดจะทำในห้องศัลแพทย์ โดยไม่ต้องมีการพักรักษาตัว หลังจากฉีดแล้วสามารถกลับบ้าน หรือกลับไปทำงานตามปกติได้ทันที

Polyacrylamide เป็นเจลที่ไม่สามารถซึมได้ และอยู่ได้เป็นเวลานาน ใช้สำหรับการแก้ไขใบหน้า และสัดส่วนของร่างกาย เมื่อฉีด Polyacrylamide แล้วจะไม่มีการแข็งเกิดขึ้นทันที และไม่ไหลจากจุดฉีด ผลจากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ได้สรุปว่าเจลจะอยู่กับที่ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 10 ปี และจะอย่อย่างนั้น โดยไม่เปลี่ยนแปลง และไม่ต้องฉีดซ้ำถ้าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาได้เป็นไปตามความต้องการของศัลยแพทย์และตัวคนไข้เอง ส่วนการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณก็ยังคงเป็นไปตามอายุ ความต้องการในการฉีดเพิ่มยังคงเป็นไปได้ ถ้าเกิดเห็นว่าสมควร


ผู้ที่มีความเหมาะสมในการได้รับการฉีด
• ผู้ที่มีแผลเป็น ความหย่อนคล้อย หรือริ้วรอยบนใบหน้า หน้าอกเล็ก หรือก้นเล็ก
• ผู้ที่ขาดความอ่อนเยาว์ หรือมีสัดส่วนที่ไม่สมดุลของร่างกาย (หน้าอก หรือก้น)
• ผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ และแข็งแรง
• ผู้ที่มีสุขภาพจิตที่มั่นคง
• ผู้ที่ต้องการพัฒนารูปลักษณ์
• ผู้ที่เห็นความเป็นจริงของความคาดหมาย
• ผู้ที่รับรู้ทางเลือกต่างๆ


ชนิดของยาชาที่ใช้
ระดับความเจ็บปวดของศัลยกรรมตกแต่งชนิดนี้จะแตกต่างกันตามรายบุคคล อย่างไรก้อตาม อาจมีอาการเจ็บจากการฉีด แต่ไม่มากนัก โดยทั่วไปแล้วการฉีดไขมัน หรือฟิลเลอร์ ศัลยแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือยากล่อมประสาทเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะค่อนข้างสร้างความเจ็บปวดให้คนไข้บ้าง โดยจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ถูกฉีด เช่นบริเวณริมฝีปากหรือบริเวณที่ผิวมีความรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดมาก แต่การฉีดที่แก้ม คาง ตา หน้าอก หรือก้น ระดับความเจ็บก็จะลดลง เพราะฉะนั้นการปรึกษาศีลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญก่อนการรับการฉีดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก


การผ่าตัด
การฉีดไขมันมีสองขั้นตอน ขั้นตอนแรก ไขมันนั้นจะต้องถูกนำมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยส่วนมากแล้วจะเป็นบริเวณหน้าท้องหรือสะโพก หลังจากไขมันได้ถูกสกัดออกมาแล้ว จะถูกใส่เข้าไปในเข็มฉีดยาเพื่อรักษาเกล็ดตามธรรชาติที่ได้มา ต่อไปไขมันก็จะถูกฉีดอย่างลึกลงไปบริเวณที่ต้องการ
เนื่องจากไขมันมีปริมาณใหญ่โตมากกว่าสารฉีดอื่นๆ ไขมันจึงถูกฉีดลึกเข้าไปในผิวหนัง ปริมาณจะอยู่ที่ 50 – 100 ซีซี ซี่งจะสามารถฉีดได้ที้งใบหน้า ไขมันที่ถูกฉีดจะทำงานทันทีด้วยการกระชับผิว เพื่อลด หรือกำจัดริ้วรอย แผลเป็นจากการหย่อยคล้อยของผิวหนัง
การฉีกฟิลเลอร์เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก และมีขั้นตอนเดียว ฟิลเลอร์สามารถฉีดเข้าสู่รอยแผลเล็กๆ 1 – 5 มม ได้ และโดยทั่วไปจะฉีดที่ใบหน้า หน้าอก และก้น


หลังจากการผ่าตัด
ส่วนใหญ่แล้ว คนทั่วไปจะประสบกับอาการบวม และแดงสำหรับ 24 – 48 ช.ม. แรก และจะตามมาด้วยอาการคันและความไม่สบายตัวเล็กน้อย การพักฟื้นรักษาตัวขึ้นอยู่กับความมากน้อยของกระบวนการฉีด ถ้าไขมันจำนวนมากถูกฉีดเข้าไปบริเวณใบหน้า อาการบวมอาจจะนานจากเป็นวันๆ จนถึงอาทิตย์ต่อๆไป เพราะฉะนั้นก่อนการปผ่าตัด คุณควรถามศัลยแพทย์ของคุณเกี่ยวกับระยะเวลานการรักษาตัวของคุณเองด้วย